จะเกิดอะไรขึ้น…ถ้าในองค์กรไม่มี “COACH”
โดย : อ.ธีรพล แซ่ตั้ง
เรื่อง “แปลกแต่จริง” ของเกือบทุกองค์กรที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็คือ..แต่ละองค์กรมีผู้นำ มีผู้บริหารมีหัวหน้างาน แต่ปราศจาก Coach ในทุกระดับทุกสายงาน !
ทำให้เกิดเรื่อง “จริงที่น่าเศร้า” ดังนี้…
1. Silent Communication ก็คือ การทำงานที่ปราศจาก “การสื่อสาร” ระหว่างหัวหน้าทีม กับ พนักงาน ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างคิด และมักจะคิดแบบคิดเอาเองเดาเอาเอง เหมือนกับการเล่นเกมเดาใจ วัดใจ ระหว่างหัวหน้าทีมกับทีมงาน!เมื่อเริ่มคิดต่างกันสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ
2. GAP ก็คือ ช่องว่างที่ห่างเหินกันมากยิ่งขึ้น ยิ่งห่าง ความคิดยิ่งต่างความเข้าใจที่ยิ่งตรงกันข้าม ความสัมพันธ์ที่เคยมีเริ่มเปราะบางจากความสัมพันธ์ก็แปรเปลี่ยนเป็นความห่างเหิน..เย็นชา…ตามมาด้วย…
3. Negative Mind Set ก็คือทัศนคติในแง่ลบที่จะมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น กับหัวหน้าทีมกับหน่วยงาน กับตัวสินค้าไปจนถึงทัศนคติในแง่ลบกับตัวองค์กรที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มส่งผลถึง
4. Decrease Performance ประสิทธิภาพของงานลดลง ซึ่งเป็นกฎของธรรมชาติอยู่แล้วจะเรียกว่า กฎแห่งการสะสมก็น่าจะได้เพียงแต่เป็นการสะสมสิ่งที่ไม่ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเหมือนก้อนหิมะก้อนเล็กที่กลิ้งลงจากภูเขาจะทวีความใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆและเมื่อประสิทธิภาพลดลงมากยิ่งขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็คือ…
5. Problem ปัญหา และ ปัญหา! ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ไม่ควรจะเกิดก็จะเริ่มเกิดปัญหาที่เคยเกิดก็ทวีความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดในเรื่องเนื้องานที่ทำปัญหาระหว่างทีมงานด้วยกันเอง ปัญหาหน่วยงานอื่นๆไปจนถึงปัญหาระหว่างทีมงานกับหัวหน้างานและผู้บริหารโดยตรง!นอกจากผลเสียในหลายเรื่องที่เกิดกับตัวองค์กร หน่วยงาน และลูกค้าแล้วก็จะต้องมีผู้รับผลที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ก็คือ
6. Turn Over อัตราการลาออก ก็จะเริ่มเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงปรกติคนที่ไม่ควรจะออก ก็อาจจะลาออกด้วยความเบื่อหน่าย ด้วยความท้อแท้สิ้นหวังคนที่ควรจะต้องออกก็อาจถูกไล่ออกมากกว่าที่ควรจะเป็น
เราจะเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงทั้ง 6 อย่างเป็น "วงจรอุบาทว์" ก็ได้ แต่เป็นวงจรที่อาจจะไม่ส่ง ผลเสียรุนแรงขนาดนี้หรือไม่เกิดวงจรอุบาทว์นี้เลย ถ้า….ระดับหัวหน้างานไล่ไปจนถึงผู้จัดการผู้บริหารระดับสูงทำใน “สิ่งที่ควรทำ” และทำใน “สิ่งที่จำเป็นต้องทำ” ก็คือเป็น Coach ให้กับทีมงานของตัวเอง!
การเป็น Coach ไม่ใช่หมายถึงมีบทบาทเป็นหัวหน้าแล้วจะกลายเป็น Coach โดยธรรมชาติ… การเป็น Coach ไม่ใช่หมายถึงการเน้นแต่ออกคำสั่ง "สั่ง"แล้วสั่งลูกเดียว โดยปราศจากการ “สอน”
การเป็น Coach ไม่ใช่หมายถึงการเป็นแค่ Trainer คือฝึกอบรมให้กับทีมงานของตัวเองเพียงครั้งเดียวแล้วเลิกแล้วกันไป
การเป็น Coach ที่แท้จริง หมายถึงการเป็นทั้ง ผู้ฝึกสอน ผู้ชี้แนะ ผู้สนับสนุนผู้ที่ช่วยแก้ปัญหา ให้กับทีมงาน "ทุกคน" ของตัวเอง…โดยเริ่มตั้งแต่เข้าใจทีมงานของตนเองอย่างลึกซึ้งทั้งในเรื่อง จุดอ่อน จุดแข็งเข้าใจธรรมชาติของคนที่ถูกปลูกฝัง ถูกหล่อหลอมมาแตกต่างกันเข้าใจวิธีการสื่อสารอย่าง "สร้างสรรค์"และสื่อสารได้ตรงกับความต้องการของทีมงานแต่ละคนที่อาจจะถนัดที่จะรับสารในรูปแบบที่แตกต่างกัน
ทุกวันนี้…หน่วยงานของท่าน …องค์กรของท่าน… มีแต่หัวหน้างาน ผู้บริหารที่ปราศจาก Coach หรือ ทุกหน่วยงานของท่าน มี Coach มืออาชีพ?