เปลี่ยน "มุมมอง" เปลี่ยน "วิธีการ"
สำหรับ "วิธีมอง"แบบแรกคือวิธีมอง ธุรกิจที่ท่านกำลังทำอยู่ ท่านมองธุรกิจอย่างไร ท่านก็ทำธุรกิจอย่างนั้น! (มองกว้าง มองไกล มองลึก กว่าที่คนทั่วๆ ไปมอง ท่านก็จะทำได้ กว้าง ได้ไกล และลึกซึ้ง)
คราวนี้มาว่ากันต่อเรื่อง วิธีมอง สถานการณ์ปัจจุบัน และ วิธีมองคนในองค์กรของท่านควบคู่กันไป จะว่าไปแล้วสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ถึงกับเป็นสถานการณ์ที่วิกฤติ หรือ เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำธุรกิจแบบประมาท คำพูดที่ฟังหรืออ่านดูสวยหรูว่า ในทุกวิกฤติมีโอกาส หรือ เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ผู้บริหารทุกคนสามารถทำได้ แต่ไม่ทุกคนที่คิดจะทำ! เหตุผลที่ไม่คิดจะทำหรือทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือ เรื่องร้าย ยังไม่สำคัญเท่าปฏิกิริยาตอบสนองต่อเรื่องที่เกิดนั้นๆ ถ้าเรารู้จักมอง เลือกมุมที่จะคิด ท่านจะเห็นโอกาสแฝงอยู่ในทุกวิกฤตการณ์
ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ปัจจุบัน ราคาน้ำมันสูงขึ้น ต้นทุนการบริหารการจัดการเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงมีมากขึ้น รวมทั้งผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น อีกทั้งไตรมาสสามของแต่ละปีก็ยังเป็นไตรมาสที่หลายๆธุรกิจยอดขายมักจะลดลงโดยธรรมชาติของธุรกิจนั้นๆ
ทางเลือกแรก ถ้าท่านมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นปัญหา เป็นวิกฤติ สิ่งที่หลายๆ ท่านมักจะแตกตื่นคิดแตกตื่นทำคือ ลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด! ถามว่า ลดค่าใช้จ่ายผิดตรงไหน? ก็ขอตอบแบบฟันธงเลยว่า ไม่ผิด แต่ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องที่สุด และ ไม่ใช่วิธีแรกที่สุดที่ควรทำ! เหตุผลก็คือ หลายๆ ธุรกิจไปลดค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรลด อย่างเช่น ลดกาแฟต้อนรับลูกค้า งดกาแฟสำหรับพนักงาน อาจจะลดค่าใช้จ่ายได้บ้าง แต่คงไม่กี่บาท เมื่อเทียบกับขวัญ กำลังใจ และความรู้ที่เสียไปของลูกค้า
จากประสบการณ์ของผม และวิธีคิดวิธีบริหารของผม อะไรที่เป็นความฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองแบบไร้สาระ ไม่มีเหตุผล ผมก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายตรงนั้น ขณะเดียวกันอะไรที่จำเป็นและเป็นส่วนส่งเสริมให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด พนักงานมีขวัญและกำลังใจในการทำงาน ผมไม่เคยลดมีแต่จะเพิ่ม! ในช่วงวิกฤติทางเศรษฐกิจของไทยเมื่อ 7 ปีก่อน หลายๆ ธุรกิจเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสจากร่อแร่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้จากวิธีมองสถานการณ์และเปลี่ยนให้เป็นโอกาส เช่น แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในช่วงวิกฤตินอกจากจะไม่ลดพนักงานแล้ว ยังฉกฉวยสถานการณ์ให้พนักงานเรียนรู้ทักษะทุกๆ ด้านและใช้พนักงานหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า จนค้นมุมเล็กๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์คือลูกค้าไม่ใช่ไม่มีเงินซื้อบ้าน แต่ลูกค้าไม่มั่นใจที่จะซื้อบ้าน สิ่งที่แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ทำอย่างที่ทุกท่านทราบกันดีอยู่แล้วคือสร้างบ้านเสร็จก่อนขาย จนกลายเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้ทันที
กลับมาที่ปัจจุบัน ไตรมาสสามที่หลายๆ ธุรกิจลดงบโฆษณา แต่มีผู้นำที่มีวิธีมองที่แตกต่างแทนที่จะลดงบโฆษณา กลับโหมโฆษณาในช่วงนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า คนอื่นและคู่แข่งพากันลดค่าใช้จ่ายยิ่งเป็นโอกาสที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำต่อยอดความเป็นผู้นำ ก็คือ ชาเขียวโออิชิ! ขยับให้ใกล้ตัวท่านอีกนิด! ถ้าท่านมองว่า แนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่านกำลังคิดอะไรอยู่? ถ้าสิ่งที่ท่านกำลังคิด คือ อยู่นิ่งเฉยพร้อมๆ กับลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด ขอบอกเลยนะครับว่า ท่านกำลังถดถอยมากกว่าภาวะเศรษฐกิจซะอีก! แต่ถ้าท่านลองเปลี่ยนมุมมองว่า…ในภาวะปัจจุบัน เราควรทำอะไรและทำอย่างไร เพื่อพลิกสถานการณ์จากที่ร่อแร่ให้รอด จากที่พอไปได้ให้ดี หรือจากที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น!
ตัวอย่างเช่น ถ้าธุรกิจ องค์กรของท่านอยู่ในสถานการณ์ร่อแร่ สิ่งที่ควรจะคิด(แน่นอน ไม่ใช่คิดสั้น!)ก็คือ พลิกสถานการณ์ที่ร่อแร่ให้ดีขึ้น โดยเริ่มจาก วิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริง เช่น ทำไมคนอื่นที่อยู่ในธุรกิจเดียวกับท่านไม่ร่อแร่? แสดงว่าสิ่งที่ท่านบริหารในปัจจุบัน มีบางอย่างผิดพลาดใช่หรือไม่? ท่านเจาะลูกค้าผิดกลุ่มหรือไม่ ลูกค้าดีๆ อยู่กับคู่แข่ง แต่ท่านได้แต่ลูกค้าที่มีกำลังซื้อน้อย หรือ ซื้อเยอะแต่จ่ายน้อยแบบไม่ค่อยยอมจ่าย? สินค้า-บริการของท่าน ราคาแพงแบบไม่สมเหตุสมผลหรือไม่? พนักงานของท่านทุ่มเทและมีทักษะที่เพียงพอในสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่? หรือ ในสภาวะแบบนี้คือโอกาสที่ท่านจะ ลอกคราบและเปลี่ยนแปลงธุรกิจของท่านให้ทำธุรกิจอื่นโดยใช้พนักงานเดิมแต่เพิ่มทักษะใหม่ สร้างสินค้า-บริการใหม่ๆ ขึ้นมา! ส่วนท่านที่อยู่ในธุรกิจที่ยังพอไปได้ แต่ไม่ถึงกับดี ในภาวะเช่นนี้ ท่านเห็นโอกาสอะไรบ้าง…..? เช่น โอกาสที่จะต่อยอดพัฒนาทักษะพนักงานของท่าน โอกาสในการปรับเปลี่ยนพนักงานบางกลุ่มที่เป็นตัวถ่วงมากกว่าสร้างความเจริญ หรือโอกาสในการลดสินค้า-บริการที่สร้างภาระค่าใช้จ่ายมากกว่าสร้างรายได้ ท่านยังมีเวลาอีกตั้งหลายเดือนที่จะรีบสร้างการปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรบในสมรภูมิธุรกิจไตรมาสสุดท้ายที่ทุกธุรกิจจะโหมกระหน่ำในตอนนั้น
หรือทำไมท่านไม่สร้างทีมงานทักษะใหม่ สายพันธุ์ใหม่ตั้งแต่วันนี้ เพื่อเก็บเกี่ยวยอดขายสะสม เพื่อที่จะไม่ต้องโหมมากเกินไปในไตรมาสสุดท้าย?
ส่วนท่านที่อยู่ในธุรกิจที่ยังไปได้ดี วิธีมองยิ่งสำคัญมาก! เพราะสิ่งที่ท่านจะต้องคิดและจะต้องทำไม่ใช่หลงระเริงกับความสำเร็จในปัจจุบัน แต่ท่านจะต้องหาวิธีรักษาและต่อยอดสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เพราะยังไม่มีสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับวันพรุ่งนี้!
สรุป สิ่งที่ท่านมองเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และ มองคนในองค์กรของท่าน ในวันนี้ จะส่งผลกับธุรกิจของท่าน … อย่างเร็วภายใน 3 เดือน อย่างช้า ภายใน 6 เดือน! แล้วทำไมเราไม่เริ่มเปลี่ยนวิธีมอง เพื่อเปลี่ยนวิธีการ และ สร้างผลตั้งแต่วันนี้ล่ะครับ?
โค้ด
แนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถ้าสิ่งที่ท่านกำลังคิด คือ อยู่นิ่งเฉยพร้อมๆ กับลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด ขอบอกเลยนะครับว่า ท่านกำลังถดถอยมากกว่าภาวะเศรษฐกิจซะอีก!
โดย : อ.ธีรพล แซ่ตั้ง