เปลี่ยนเรื่อง"ร้าย" ให้เป็นเรื่อง"ดี"!
การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับกลาง หัวหน้างาน หรือพนักงานระดับปฏิบัติการปัจจุบัน ลองสังเกตดูเราจะพบเรื่องที่เราคิดว่าเป็น "เรื่องร้ายๆ" เป็น"ปัญหา"ในทุกๆวัน!
ลองมาทำ Check List แบบคิดตามง่ายๆ ในระหว่างที่อ่านนะครับว่า แต่ละเรื่อง อะไรที่ท่านคิดว่าเป็น "ปัญหา" เป็น "เรื่องร้ายๆ" ที่ท่านเคยพบ หรือ กำลังพบอยู่…และท่านยังคิดว่าเรื่องที่ท่านพบดังต่อไปนี้ เป็นเรื่อง ร้าย เท่านั้น!
1. ผู้บริหารระดับคีย์แมนที่มีบทบาทสำคัญในองค์กรของท่าน ลาออก…..(เป็นเรื่องร้ายเป็นปัญหาที่หลายๆท่านที่เคยเจอถึงกับนอนก่ายหน้าผากไปหลายคืนเหมือนกัน..!)
2. สินค้า-บริการของท่าน ที่เคยขายดิบขายดี จนแทบผลิตและส่งมอบไม่ทันในอดีต แต่มาวันนี้ยอดขายลดลงเรื่องๆเพราะมีสินค้า-บริการของคู่แข่งที่ดีกว่าและถูกกว่า หรือ เป็นสินค้าทดแทนที่ท่านคาดไม่ถึง! (เจอเรื่องแบบนี้ แค่นอนก่ายหน้าผากอาจจะน้อยไป คงต้องนอนตีลังกาหัวอยู่ล่าง เท้าอยู่บน เพื่อเป็นการทรมานตัวเองควบคู่กับกันทรมานจิตใจที่ต้องเจอแบบนี้!)
แค่ 2 เรื่องนี้ ไม่ว่าท่านเจอเรื่องใดเพียงเรื่องเดียว ก็ทำให้กินข้าวไม่อร่อย นอนไม่หลับแล้ว!
เป็นไปได้หรือไม่ครับ เหตุผลที่เรามองเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือทั้ง 2 เรื่อง เป็นปัญหา เป็นเรื่องร้ายเพราะเรายัง มองในมุมเดิมๆ ติดกับดักแห่งความสบาย ติดกับดักแห่งความเคยชิน หรือติดกับดักของการกินบุญเก่า!
แน่นอนครับ เรื่องที่เจอ เราอาจจะมองเป็นเรื่องร้ายก็ได้ แต่ เราจะเปลี่ยน เรื่องร้ายที่พบให้จบกลายเป็นเรื่องดีๆ ได้ยังไงเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เพราะเรื่องเหล่านี้ ไม่ช้าก็เร็วเกือบทุกธุรกิจก็ต้องพบไม่วันใดก็วันหนึ่ง หรืออาจจะเป็นวันพรุ่งนี้ก็ได้!
และ ตัวอย่าง 2 เรื่องร้ายนี้ เป็นประสบการณ์ที่ผมพบบ่อยในงานที่ปรึกษาที่ผมทำ แนวทางคร่าวๆที่จะขออนุญาตแนะนำให้ท่านลองพิจารณาไปลองปรับใช้อาจจะเป็นประโยชน์กับท่านก็ได้
เรื่องร้าย 1. ผู้บริหารระดับคีย์แมนที่มีบทบาทสำคัญ ..ลาออก! ถ้าปล่อยให้เป็นเรื่องร้ายแบบตั้งรับ ท่านก็คงปวดหัวไปพร้อมกับความปั่นป่วนของระบบงานและคนภายในองค์กรของท่าน แต่ถ้าท่านเปลี่ยนเป็นรุกกลับ (ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดว่า ออกไปแล้วด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม จะเกิดปัญหาจะแย่ยังไงบ้าง )โดยแสดงฝีมือของท่านในการบริหารรับช่วงงานของคีย์แมนที่ลาออกไป(ไม่ว่าท่านจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม และจะบอกว่าเป็นงานที่ท่านไม่ถนัด ก็ย่อมไม่ใช่ข้อแก้ตัว เพราะทุกคนสามารถเรียนรู้ หรือ เรียนรู้ที่จะบริหารได้!) พร้อมๆ กับการคัดสรร หรือคัดเลือก คนในหรือคนนอกให้รับหน้าที่แทนภายในระยะเวลา 3 เดือนโดยมีท่านเป็นพี่เลี้ยง! โดยท่านต้องมีความเชื่อว่า คนหรือคีย์แมนเป็นสิ่งที่สร้างได้ เพราะถ้าท่านปล่อยให้ธุรกิจของท่านขึ้นอยู่กับคนคนเดียว…อันตราย!
ท่านเชื่อหรือไม่ว่า… คนใหม่ที่ท่านคัดสรรหรือปั้นขึ้นมาอาจใช้เวลา 3 เดือนหรือ 6 เดือน ไม่แน่อาจจะมีศักยภาพมากกว่าคีย์แมนที่ลาออกไปอีก! จนท่านอาจจะคิดว่า รู้ยังงี้น่าจะอวยพรให้ออกไปตั้งนานแล้ว!
เรื่องร้ายที่ 2.. สินค้า-บริการ ที่เคยขายดิบขายดี มาวันนี้ขายไม่ออก
ผมกลับมองท่านโชคดีมากที่เจอเรื่องแบบนี้! ไม่ได้พูดเล่นนะครับ เพราะถ้าท่านยังติดกับดักความสบาย กินบุญเก่ากับสินค้า-บริการเดิมๆที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มีการพัฒนา ไม่ช้าก็เร็ว บุญเก่าก็หมด(ก็เหมือนเรื่องการทำบุญนั่นแหละครับ เมื่อบุญเก่าหมด กรรมก็ตามมาเป็นระลอก!)
ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ เป็นโอกาสที่ท่านจะทำง่ายๆ 2 ทางเลือกครับ! ทางเลือกแรก ท่านต้องหาตลาดใหม่โดยใช้สินค้า-บริการเดิมของท่านแต่ปรับเปลี่ยนตัวสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับตลาดใหม่(วิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นกับระยะกลางเท่านั้น!)
ทางเลือกที่สอง (ซึ่งแนะนำให้ท่านทำ ไม่ว่าท่านจะพบเรื่องร้ายแบบนี้หรือไม่ก็ตาม!) คิดและสร้าง สินค้า-บริการใหม่ๆ โดยท่านจะทำเอง หรือ จะไปหาพันธมิตร (Strategic Partner)ร่วมกันทำก็ได้ และเป็นโอกาสที่ท่านจะคิด และ สร้าง สินค้า-บริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะในโลกปัจจุบัน ความสดใหม่ รูปแบบประโยชน์ใหม่ๆ เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากกว่าของเดิมๆซ้ำๆซากๆ!
จาก 2 ตัวอย่างเรื่องร้าย และแนวทางคร่าวๆ หวังว่าท่านจะเห็นเรื่องดีๆเห็นโอกาสใหม่ๆในเรื่องร้ายที่ท่านพบ และถ้าท่านเห็นจริง ท่านจะพบว่า เรื่องร้ายๆหรือ ปัญหาที่ท่านพบ เป็นเรื่องดีๆ เป็นโอกาสใหม่ๆทั้งสิ้น! ขออวยพรให้ท่านพบเรื่องร้ายๆแบบนี้…! และเปลี่ยนเป็นเรื่องดีๆในตอนท้ายได้นะครับ!
โดย : อ.ธีรพล แซ่ตั้ง