ReadyPlanet.com
dot
dot
Model
dot
bullet3 Steps ในการพัฒนาศักยภาพ Call Center
bulletเคล็ดลับ 2 C
bulletทางเลือกในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาทีมงาน
bulletปัญหาของทีม Tele-Sales ในปัจจุบันคือ
bulletทีมงานของท่าน เป็นอาวุธในการสร้างลูกค้า หรือทำลายลูกค้า
dot
คลินิคตรวจสุขภาพทีมงาน
dot
bulletCoaching Program
bulletCall Center/Tele-Sales Program
bulletต้อง Coaching กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
bulletสร้างภาพ หรือสร้างคุณภาพ
bulletยิ่งงานยุ่ง ผลงานยิ่งแย่
bulletทำธุรกิจแบบมี"กลยุทธ"
bulletช่องว่างระหว่างเถ้าแก่กับมือปืนรับจ้าง
bulletโอกาสเป็นของผู้สร้าง
bulletพลัง Employee Share สร้าง Customer Share
bulletการขายทางโทรศัพท์"เชิงรุก"
bulletอย่าทำแค่การ Re-Branding
bulletอาวุธสำหรับออกรบ
bulletจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในองค์กรไม่มี COACH
bulletใครบ้างควรเป็น Coach ในองค์กร
bulletอย่าลังเลที่จะสร้าง ทีมงานที่มีศักยภาพ
bulletเปลี่ยน ก่อนจะ ถูกเปลี่ยน
bulletเพิ่มศักยภาพทีมงาน สร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างรายได้ (1)
bullet เพิ่มศักยภาพทีมงาน สร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างรายได้ (2)
bulletCRM แค่เริ่มต้นก็ล้มเหลว!
dot
Newsletter

dot


Theerapol S.Tang


ทำธุรกิจแบบมี"กลยุทธ"

 ทำธุรกิจ……แบบมี กลยุทธ์!

     

เรื่องแปลกแต่จริงที่ธุรกิจในบ้านเรา ส่วนมาก…ทำธุรกิจแบบไร้กลยุทธ์ หรือ เข้าใจเอาเองว่าสิ่งที่ทำคือ กลยุทธ์ของธุรกิจ! เรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่เกิดขึ้นจริงกับหลายธุรกิจก็คือ เมื่อไร้กลยุทธ์ ก็มักจะไร้ซึ่งความรุ่งเรือง หรือมักจะแตกดับเมื่อเจอสถานการณ์พลิกผันที่ไม่สามารถควบคุมได้!

 

      คำว่า กลยุทธ์สำหรับแต่ละธุรกิจในที่นี้ ผมขออนุญาตใช้ ประสบการณ์มาตีความส่วนท่านผู้อ่านทุกท่านที่มีความคิดที่แตกต่างก็สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ

 

      กลยุทธ์ในที่นี้ ไม่ใช่แค่เพียงว่า เราจะทำธุรกิจอะไร จะขายสินค้า-บริการ หรือจะหาลูกค้าอย่างไรเท่านั้น เพราะที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นแค่ กฎพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีในการทำธุรกิจอยู่แล้ว!

 

      แต่กลยุทธ์ในที่นี้เป็นเรื่องของ การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น ในทุกเรื่องที่เราคิดจะทำ หรือ กำลังจะทำ!

 

     ไม่ว่าจะเป็น …การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น เกี่ยวกับ สินค้า-บริการที่เราทำอยู่หรือคิดจะทำ ว่าเราอยู่ในธุรกิจอะไร? คู่แข่งในธุรกิจเดียวกันรายเดิมมีใคร คู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันรายใหม่ น่าจะมีใครอีก รวมทั้ง คู่แข่งข้ามสายพันธุ์คนละธุรกิจที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคู่แข่งเพราะสินค้าไม่เหมือนกัน หรือ คนละตลาด แต่อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ที่อาจทำให้ธุรกิจเราหายไปจากตลาด หรือ ขายได้น้อยลง (เช่น โทรศัพท์มือถือที่มีพัฒนาการในเรื่องการถ่ายภาพที่คมชัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบกับ ยอดขายกล้องดิจิทัล ในบางยี่ห้อ)

 

      การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น ในเรื่อง คู่ค้า เรื่องพันธมิตร ที่จะต้องมองให้รอบด้านว่า พันธมิตรรายใดบ้างที่จะช่วยกัน พัฒนาสินค้า-บริการ หรือพูดง่ายๆ คือมีส่วนช่วยสร้าง นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับธุรกิจของเรา หรือพันธมิตรรายใดที่ต่อไปอาจพัฒนาจนกลายมาเป็นคู่แข่งกับเรา หรือไปจับมือกับคู่แข่งทำธุรกิจแข่งกับเรา?

 

      การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น ในเรื่องของทีมงานทุกระดับ ตั้งแต่การวิเคราะห์ศักยภาพของทีมงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน การยกระดับศักยภาพของทีมงานที่มีอยู่ การเตรียมแผนสำรองสำหรับการสร้างทีมงานในแต่ละระดับสำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงของทีมงานเพื่อจะได้ไม่ต้องตาลีตาเหลือกหาทีมงานทั้งในกรณีทีมงานลาออก หรือในกรณีรองรับการขยายงาน

 

      การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น ในเรื่องของลูกค้า จะต้องเข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง (ไม่ใช่โลกของทฤษฎีตามตำราที่บอกว่าลูกค้าทุกคนสำคัญเสมอและสำคัญเท่ากัน!) ต้องแยกแยะได้ว่า ลูกค้าประเภทใดที่จะควรจะให้ความสำคัญ ลูกค้าประเภทใดไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว เพราะไม่คุ้มกับการบริหาร การจัดการหรือการทุ่มเท

 

      การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้นในเรื่องการบริหารเงินทุน และการลงทุนไม่ว่าจะเป็นเงินทุนหลักของธุรกิจสัดส่วนมาจากเงินที่มีเงินกู้จากธนาคาร เงินจากการระดมทุนจากแหล่งต่างๆ รวมทั้ง การลงทุนที่ต้องคิดหลายชั้นประเภทเห็นโอกาส (ที่แฝงหายนะแต่ไม่ได้สังเกต)ก็รีบกระโจนลงทุน หรือ ขยายการลงทุนแต่เมื่อผลไม่เป็นไปตามคาดก็พลอยทำให้ธุรกิจทั้งหมดดิ่งลงเหวไปทันทีอย่างที่หลายธุรกิจกำลังเป็นอยู่

 

      จากตัวอย่างประเด็นหลักๆ (ไม่รวมประเด็นย่อยจิปาถะอื่นๆ)ที่ต้อง มองกว้าง มองลึก คิดหลายชั้น ในเรื่องของ สินค้า-บริการ /คู่ค้า-พันธมิตร /ทีมงาน/ลูกค้า/การเงิน-การลงทุน ซึ่งทุกประเด็นหลัก ถ้าคิดแบบกลยุทธ์นอกจากการมองกว้าง มองลึก การคิดหลายชั้นในแต่ละประเด็นอย่างละเอียดแล้ว จะต้องเชื่อมโยงทุกประเด็นหลักในเชิงกลยุทธ์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกประเด็นสอดประสาน เชื่อมโยง ส่งเสริม ซึ่งกันและกันในเชิงกลยุทธ์!นั่นก็หมายความว่า ทุกย่างก้าว ทุกประเด็นของสิ่งที่คิดจะทำ และ สิ่งที่กำลังทำอยู่ต้องคิดและทำอย่างมีกลยุทธ์ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ หรือ ทำตามชาวบ้าน ทำตามกระแส แม้กระทั่งทำตามคู่แข่ง!

 

      ที่สำคัญในระหว่างคิดและทำ จะต้องตรวจสอบกลยุทธ์ที่ทำ ในแต่ละประเด็น(สินค้า-บริการ/คู่ค้า /ลูกค้า/ทีมงาน/การเงิน)ว่าสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากกลยุทธ์หลักของธุรกิจที่มีแล้ว จะต้องเสริมกลยุทธ์อะไร แทนที่จะรอให้ปัญหาเกิดขึ้น หรือทำธุรกิจแบบตั้งรับ …

 

      พูดง่ายแต่ทำไม่ง่ายก็คือ จะต้องคาดการณ์ล่วงหน้าได้หลายสถานการณ์แม้กระทั่งสถานการณ์ที่ยากแก่การคาดเดาก็ต้องคาดเดาให้ได้ ถึงจะเรียกว่าทำธุรกิจแบบมีกลยุทธ์ เพราะถ้าทำธุรกิจไปเรื่อยๆ แบบไม่คาดเดา แบบไม่คิดอะไรมาก หรือแบบประคองตัวไปเรื่อยๆ ก็เท่ากับทำธุรกิจโดยไม่มีกลยุทธ์ ก็ไม่ต่างกับการนำเรือออกทะเลโดยไม่มีเข็มทิศ โดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ปล่อยให้ทะเลและคลื่นพัดพาเรือไป คำถามก็คือ จะมีเรือกี่ลำที่ไปได้ถึงฝั่ง โดยไม่ถูกคลื่นแห่งเศรษฐกิจและพายุแห่งการแข่งขันโจมตีจนเรือแตกจมลงในเวลาไม่นาน…

 

      ที่สำคัญการทำธุรกิจแบบมีกลยุทธ์ อาจจะเหนื่อยตอนคิด เพราะต้องคิดกว้าง คิดลึก และ คิดหลายชั้น แต่ข้อดีที่เป็นปัจัยสำคัญในการทำธุรกิจยุคปัจจุบันคือจะไม่ต้องเสียเวลา และ ไม่ต้องมาเหนื่อยกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือปัญหาที่ไม่ได้คิดล่วงหน้า หรือ เสียขบวนจนเสียธุรกิจเพราะทำธุรกิจแบบ …ไร้กลยุทธ์!

 ธีรพล แซ่ตั้ง







Copyright © 2010 All Rights Reserved.
TSC CO.,LTD. เลขที่ 3272/23 คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
โทร : (662) 736-5460 แฟ็กซ์ : (662) 736-6600 e-mail : tsctheone_t@hotmail.com เว็บไซต์ : www.thespecialistcoach.com