ทำธุรกิจ……แบบมี กลยุทธ์!
เรื่องแปลกแต่จริงที่ธุรกิจในบ้านเรา ส่วนมาก…ทำธุรกิจแบบไร้กลยุทธ์ หรือ เข้าใจเอาเองว่าสิ่งที่ทำคือ กลยุทธ์ของธุรกิจ! เรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่เกิดขึ้นจริงกับหลายธุรกิจก็คือ เมื่อไร้กลยุทธ์ ก็มักจะไร้ซึ่งความรุ่งเรือง หรือมักจะแตกดับเมื่อเจอสถานการณ์พลิกผันที่ไม่สามารถควบคุมได้!
คำว่า กลยุทธ์สำหรับแต่ละธุรกิจในที่นี้ ผมขออนุญาตใช้ ประสบการณ์มาตีความส่วนท่านผู้อ่านทุกท่านที่มีความคิดที่แตกต่างก็สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ
กลยุทธ์ในที่นี้ ไม่ใช่แค่เพียงว่า เราจะทำธุรกิจอะไร จะขายสินค้า-บริการ หรือจะหาลูกค้าอย่างไรเท่านั้น เพราะที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นแค่ กฎพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีในการทำธุรกิจอยู่แล้ว!
แต่กลยุทธ์ในที่นี้เป็นเรื่องของ การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น ในทุกเรื่องที่เราคิดจะทำ หรือ กำลังจะทำ!
ไม่ว่าจะเป็น …การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น เกี่ยวกับ สินค้า-บริการที่เราทำอยู่หรือคิดจะทำ ว่าเราอยู่ในธุรกิจอะไร? คู่แข่งในธุรกิจเดียวกันรายเดิมมีใคร คู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันรายใหม่ น่าจะมีใครอีก รวมทั้ง คู่แข่งข้ามสายพันธุ์คนละธุรกิจที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคู่แข่งเพราะสินค้าไม่เหมือนกัน หรือ คนละตลาด แต่อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ที่อาจทำให้ธุรกิจเราหายไปจากตลาด หรือ ขายได้น้อยลง (เช่น โทรศัพท์มือถือที่มีพัฒนาการในเรื่องการถ่ายภาพที่คมชัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบกับ ยอดขายกล้องดิจิทัล ในบางยี่ห้อ)
การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น ในเรื่อง คู่ค้า เรื่องพันธมิตร ที่จะต้องมองให้รอบด้านว่า พันธมิตรรายใดบ้างที่จะช่วยกัน พัฒนาสินค้า-บริการ หรือพูดง่ายๆ คือมีส่วนช่วยสร้าง นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับธุรกิจของเรา หรือพันธมิตรรายใดที่ต่อไปอาจพัฒนาจนกลายมาเป็นคู่แข่งกับเรา หรือไปจับมือกับคู่แข่งทำธุรกิจแข่งกับเรา?
การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น ในเรื่องของทีมงานทุกระดับ ตั้งแต่การวิเคราะห์ศักยภาพของทีมงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน การยกระดับศักยภาพของทีมงานที่มีอยู่ การเตรียมแผนสำรองสำหรับการสร้างทีมงานในแต่ละระดับสำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงของทีมงานเพื่อจะได้ไม่ต้องตาลีตาเหลือกหาทีมงานทั้งในกรณีทีมงานลาออก หรือในกรณีรองรับการขยายงาน
การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้น ในเรื่องของลูกค้า จะต้องเข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง (ไม่ใช่โลกของทฤษฎีตามตำราที่บอกว่าลูกค้าทุกคนสำคัญเสมอและสำคัญเท่ากัน!) ต้องแยกแยะได้ว่า ลูกค้าประเภทใดที่จะควรจะให้ความสำคัญ ลูกค้าประเภทใดไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว เพราะไม่คุ้มกับการบริหาร การจัดการหรือการทุ่มเท
การมองกว้าง การมองลึก การคิดหลายชั้นในเรื่องการบริหารเงินทุน และการลงทุนไม่ว่าจะเป็นเงินทุนหลักของธุรกิจสัดส่วนมาจากเงินที่มีเงินกู้จากธนาคาร เงินจากการระดมทุนจากแหล่งต่างๆ รวมทั้ง การลงทุนที่ต้องคิดหลายชั้นประเภทเห็นโอกาส (ที่แฝงหายนะแต่ไม่ได้สังเกต)ก็รีบกระโจนลงทุน หรือ ขยายการลงทุนแต่เมื่อผลไม่เป็นไปตามคาดก็พลอยทำให้ธุรกิจทั้งหมดดิ่งลงเหวไปทันทีอย่างที่หลายธุรกิจกำลังเป็นอยู่
จากตัวอย่างประเด็นหลักๆ (ไม่รวมประเด็นย่อยจิปาถะอื่นๆ)ที่ต้อง มองกว้าง มองลึก คิดหลายชั้น ในเรื่องของ สินค้า-บริการ /คู่ค้า-พันธมิตร /ทีมงาน/ลูกค้า/การเงิน-การลงทุน ซึ่งทุกประเด็นหลัก ถ้าคิดแบบกลยุทธ์นอกจากการมองกว้าง มองลึก การคิดหลายชั้นในแต่ละประเด็นอย่างละเอียดแล้ว จะต้องเชื่อมโยงทุกประเด็นหลักในเชิงกลยุทธ์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกประเด็นสอดประสาน เชื่อมโยง ส่งเสริม ซึ่งกันและกันในเชิงกลยุทธ์!นั่นก็หมายความว่า ทุกย่างก้าว ทุกประเด็นของสิ่งที่คิดจะทำ และ สิ่งที่กำลังทำอยู่ต้องคิดและทำอย่างมีกลยุทธ์ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ หรือ ทำตามชาวบ้าน ทำตามกระแส แม้กระทั่งทำตามคู่แข่ง!
ที่สำคัญในระหว่างคิดและทำ จะต้องตรวจสอบกลยุทธ์ที่ทำ ในแต่ละประเด็น(สินค้า-บริการ/คู่ค้า /ลูกค้า/ทีมงาน/การเงิน)ว่าสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากกลยุทธ์หลักของธุรกิจที่มีแล้ว จะต้องเสริมกลยุทธ์อะไร แทนที่จะรอให้ปัญหาเกิดขึ้น หรือทำธุรกิจแบบตั้งรับ …
พูดง่ายแต่ทำไม่ง่ายก็คือ จะต้องคาดการณ์ล่วงหน้าได้หลายสถานการณ์แม้กระทั่งสถานการณ์ที่ยากแก่การคาดเดาก็ต้องคาดเดาให้ได้ ถึงจะเรียกว่าทำธุรกิจแบบมีกลยุทธ์ เพราะถ้าทำธุรกิจไปเรื่อยๆ แบบไม่คาดเดา แบบไม่คิดอะไรมาก หรือแบบประคองตัวไปเรื่อยๆ ก็เท่ากับทำธุรกิจโดยไม่มีกลยุทธ์ ก็ไม่ต่างกับการนำเรือออกทะเลโดยไม่มีเข็มทิศ โดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ปล่อยให้ทะเลและคลื่นพัดพาเรือไป คำถามก็คือ จะมีเรือกี่ลำที่ไปได้ถึงฝั่ง โดยไม่ถูกคลื่นแห่งเศรษฐกิจและพายุแห่งการแข่งขันโจมตีจนเรือแตกจมลงในเวลาไม่นาน…
ที่สำคัญการทำธุรกิจแบบมีกลยุทธ์ อาจจะเหนื่อยตอนคิด เพราะต้องคิดกว้าง คิดลึก และ คิดหลายชั้น แต่ข้อดีที่เป็นปัจัยสำคัญในการทำธุรกิจยุคปัจจุบันคือจะไม่ต้องเสียเวลา และ ไม่ต้องมาเหนื่อยกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือปัญหาที่ไม่ได้คิดล่วงหน้า หรือ เสียขบวนจนเสียธุรกิจเพราะทำธุรกิจแบบ …ไร้กลยุทธ์!
ธีรพล แซ่ตั้ง