เพิ่มศักยภาพทีมงาน สร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างรายได้ (1)
@ ทุกองค์กร ย่อมต้องการเพิ่มศักยภาพให้กับทีมงานของตนเองให้มากที่สุด และวิธีการเพิ่มศักยภาพก็มีหลากหลายวิธีแล้วแต่ความถนัดและความเคยชินของแต่ละที่ ที่แตกต่างกัน แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงเท่าที่เคยได้ยิน เคยพบ ยังมีความเข้าใจผิดๆ ในเรื่องการเพิ่มศักยภาพของทีมงานในทุกธุรกิจ ที่เป็นวิธีการที่เสียทั้งเวลา เสียค่าใช้จ่ายแต่กลับได้ผลที่ไม่คุ้มค่า หรือส่วนมากไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ!
@ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะไปดูกันว่าวิธีการใดที่ดีและมีประสิทธิภาพ มาลองตรวจสอบวิธีการที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพและไม่ค่อยได้ผลกันก่อนดีกว่า เผื่อท่านผู้อ่านจะได้ตรวจสอบไปด้วยว่า วิธีการที่ไม่ค่อยได้ผลนี้ยังเป็นวิธีการที่ท่านหรือองค์กรของท่าน กำลังทำอยู่หรือไม่!
@ วิธีการผิดๆ แบบที่ 1. เน้นปริมาณของเนื้อหาและหลักสูตรมากกว่าเน้นคุณภาพที่ตรงความต้องการ หลายๆ ธุรกิจจะมีแผนงานฝึกอบรมให้กับแต่ละหน่วยงาน หรือจำนวนชั่วโมงที่พนักงานจะต้องเข้ารับการฝึกอบรม ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่พลาดตรงที่ ฝึกอบรมมากเกินไป เรียกว่ามากเกินความจำเป็น เรียนแล้วเรียนเล่าแต่ไม่สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ เพราะเรียนมากเกินไปจนสับสน! สิ่งที่ได้ก็คือ ได้เรียนรู้ แต่สิ่งที่เสียคือ เวลา เงิน รวมทั้งความเบื่อหน่ายของพนักงานที่เรียนมากจนไม่เห็นคุณค่า และไม่นำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์!
@ วิธีการผิดๆ แบบที่ 2. เน้นปริมาณของผู้เข้าอบรมในแต่ละครั้งมากกว่าเน้นคุณภาพของผู้เข้าอบรม! ตรงนี้เป็นวิธีการแบบผิดๆ ที่นิยมกันอย่างมาก เพราะความคิดผิดๆ ที่ว่าอบรมแต่ละครั้งต้องยัดทะนานพนักงานเข้าไปให้มากที่สุดอาจจะครั้งละ 60 คน 80 คน 100 คนต่อการฝึกอบรมในแต่ละวัน เรียกว่าถ้าสามารถเรียกคนในหมู่บ้านข้างเคียงมาเข้าอบรมได้ก็จะพยายามยัดเข้าไปให้ได้มากที่สุด หรือสามารถขี่คอกันนั่งเรียนได้ก็จะยิ่งดี! เพราะมีความรู้สึกว่าคุ้ม จำนวนคนเยอะเฉลี่ยต่อคนแล้วคุ้มค่า บอกได้เลยครับว่ายิ่งเยอะยิ่งไม่คุ้มยิ่งน้อยกลับยิ่งคุ้มค่า
@ วิธีการผิดๆแบบที่ 3.จะมีการพัฒนาบุคลากรหรือฝึกอบรมก็ต่อเมื่อมีปัญหาหนักหนาสาหัสแล้ว! ตรงนี้ก็เป็นวิธีการยอดฮิตอีกเช่นกันที่หลายธุรกิจมักจะหายาแก้ปวดเวลาที่อาการต้องเข้าห้อง ไอ ซี ยู แล้ว!
ถามว่าผิดหรือไม่? จะว่าไปก็ไม่ผิดเพราะมีปัญหาก็ต้องแก้ เพียงแต่แก้ช้าเกินไปก็เลยมักจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก องค์กรหรือธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เมื่อเริ่มสังเกตเห็นอาการของปัญหาก็จะรีบลงมือแก้ไข หรือต่อให้ไม่มีปัญหา ก็ยังมีความพยายาม ความใส่ใจที่จะพัฒนาศักยภาพของบุคลากร โดยไม่ต้องรอให้ปัญหาเกิดขึ้นแบบหนักหนาสาหัสแล้วตาลีตาเหลือกแก้ไขแบบร้อนรน!
@ แบบที่ 4.พัฒนาศักยภาพหรือฝึกอบรมตามกระแสตามแฟชั่น! ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่า ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ใช่หรือที่ชาวบ้านเขากำลังฮิตกำลังเห่อเรื่องอะไรเราก็ควรทำเพื่อจะได้ไม่ตกกระแส จริงๆ แล้วก็ไม่ผิดอะไรมากมายหรอกครับ แต่ควรดูว่าเรื่องที่ฮิตเรื่องที่เห่อกันมันเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ เหมาะสมกับองค์กรเราหรือไม่? แล้วทำไมต้องเห่อตาม?น่าคิดนะครับ?
@ วิธีการผิดๆแบบที่ 5.พัฒนาโดยไม่รู้ปัญหา ความต้องการที่แท้จริง! เรียกว่า ถึงเวลาพัฒนาถึงเวลาฝึกอบรมก็ทำไป แต่อาจไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง ว่ารากเหง้าของปัญหาเกิดจากอะไร? ถ้ายังไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง สิ่งที่พยายามพัฒนาไปจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามาถูกทาง?
@ จากตัวอย่างวิธีการที่ผิดๆ ที่ยกมาให้ดูเป็นน้ำจิ้ม 5 รูปแบบ…
ลองตรวจดูนะครับว่ารูปแบบใดตรงกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ แล้วถ้าจะปรับเปลี่ยนวิธีการ จะทำอย่างไร? ติดตามตอนต่อไปนะครับ!
************************
องค์กรหรือธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เมื่อเริ่มสังเกตเห็นอาการของปัญหาก็จะรีบลงมือแก้ไข หรือต่อให้ไม่มีปัญหา ก็ยังมีความใส่ใจที่จะพัฒนาศักยภาพของบุคลากร โดยไม่ต้องรอให้ปัญหาเกิดขึ้น
ธีรพล แซ่ตั้ง