เร็วกว่าชนะ....ด้วย “ OODA” !?
@ มีหลากหลายวิธี ที่จะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ และอยู่บนความได้เปรียบ หนึ่งในแนวทางที่น่าสนใจและผ่านการใช้มาแล้วในระดับโลก ก็คือ “ OODA ” (อูด้า) ลองแกะและขยายความไปทีละตัว เพื่อสรุปและปรับให้เป็นแนวคิด แนวปฏิบัติที่เหมาะกับองค์กรของท่าน....แล้วท่านจะพบว่า มันน่าสนใจ และ น่านำไปใช้เป็นอย่างยิ่ง!
O ย่อมาจาก Observation คือ การสังเกตเห็น ในที่นี้ยังหมายถึง การหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด ว่าตัวของท่าน องค์กรของท่านอยู่ในสถานการณ์แบบไหน
O ตัวที่สอง ย่อมาจาก Orientation คือ กำหนดทิศทาง หลังจากท่านมีข้อมูลทั้งในเรื่อง จุดด่อน จุดแข็ง ขององค์กรของท่าน คู่แข่งของท่าน ประเมินสถานการณ์ด้วย “ประสบการณ์” และ “ความรู้”ที่ท่านมีอยู่ในปัจจุบัน ท่านก็น่าจะประเมินได้แล้วว่า....ถ้ารบแบบเดิมๆ ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ?
D ย่อมาจาก Decision คือ การตัดสินใจ ที่ครอบคลุมไปถึง การใช้ทรัพยากรที่เรามีอย่างเดียวเป็นหลัก หรือจำเป็นต้องหาพันธมิตร หรือ จำเป็นต้องคิดช่องทางใหม่ๆในการเข้าถึงและครองใจลูกค้า และต้องตัดสินใจเลือก”คนที่เหมาะสม”ที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ไปสู่วิธีการปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ที่สำคัญก็คือ การเลือกคนที่ถูกต้อง มากกว่าการเลือกคนที่ถูกใจ !)
A ย่อมาจาก Action คือ การลงมือปฏิบัติ ตรงจุดนี้แหละ....คือ เคล็ดลับที่น่าสนใจ......
@ เคล็ดลับของยุทธศาสตร์ OODA ไม่ใช่อยู่ที่ 4 ขั้นตอนตามตัวอักษร เพราะดูๆแล้วไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ออกจะเรียบง่ายซะด้วยซ้ำ ในเรื่องการหาและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเล็งเห็น (observation)ก็ไม่ใช่เรื่องยากในปัจจุบัน การกำหนดทิศทาง (Orientation)ใครๆก็ทำได้ แต่จะเริ่มยากตรงที่ การตัดสินใจ (Decision) เพราะความอุ้ยอ้าย ต้องคิดต้องเสนอหลายขั้นตอน และโรคกลัวการตัดสินใจ (ซึ่งเป็น 1ในโรคประจำตัวของผู้บริหารไทย !)
เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่...คิดได้ ต้องช่วงชิงจังหวะ และเปลี่ยนความคิดไปสู่วิธีการปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ! เพราะคิดเก่ง คิดเร็วก็ไร้ประโยชน์ ถ้าไม่นำสิ่งที่คิดไปปฏิบัติ หรือช้ากว่าเพียงครึ่งก้าวก็แพ้!
@ ต้องไม่ลืมว่า..ความล้มเหลวหรือความสำเร็จ วัดผลที่ การลงมือปฏิบัติ (หลังจากตัดสินใจแล้ว)ไม่ใช่วัดกันที่ใครคิดได้เก่งกว่า เพราะหลายองค์กร มีการวิเคราะห์ข้อมูล เล็งเห็นสถานการณ์ และกำหนดทิศทางได้ชัด แต่ดันมาช้าตรงการตัดสินใจและลงมือปฏิบัติ....ผลก็คือ คู่แข่งตัดสินใจเร็วกว่า ชิงลงมือก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดไว้ดี แต่ช้าในการลงมือ ก็จะพลิกสถานะจาก ความได้เปรียบที่จะเป็นผู้กำหนดเกม ต้องกลับไปอยู่ในสถานะของผู้เล่นตามเกม และพ่ายแพ้ในที่สุด !
@ สรุปก็คือ สิ่งดีๆที่เราคิด จะปราศจากความหมาย ถ้าปราศจากการตัดสินใจและลงมือปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว เพราะคู่แข่งไม่ได้ด้อยในเรื่องความคิดไปกว่าเรา หรือต่อให้คู่แข่งคิดได้ช้ากว่าแต่ลงมือเร็วกว่า ก็ชนะ!
@ (แนวคิดเรื่อง OODA ที่ผ่านการใช้มาจากภาคเอกชนของอเมริกัน เป็นการนำแนวคิดมาจาก นายเรืออากาศเอก จอห์น บอยด์ ของอเมริกา ที่เป็นนักคิด นักปฏิบัติที่กล้าขบถกับแนวคิดเดิมๆ วัฒนธรรมเดิมๆของกองทัพอเมริกาในยุคสงครามเวียดนาม และแนวคิดนี้ได้ถูกภาคธุรกิจนำมาใช้อย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา)
@ เพราะฉะนั้น ยุคนี้ไม่ได้วัดแค่ใครคิดนวัตกรรมได้ดีกว่า หรือใครคิดนอกกรอบได้เก่งกว่า (เพราะเรื่องคิด พูดจริงๆใครๆก็คิดได้) แต่ความท้าทายอยู่ที่การ เปลี่ยนความคิด ให้ไปสู่การลงมือปฏิบัติได้เร็วและเฉียบคมกว่า คนนั้นหรือองค์กรนั้น มักจะเป็นผู้กำหนดเกม....และผู้กำหนดเกม จะไม่เคยแพ้ !
โดย : อ.ธีรพล แซ่ตั้ง