ตอน : "กรงกรรม" ในองค์กร!
ถึงแม้ละครเรื่อง "กรงกรรม" ทางช่อง 3 จะจบลงไปเมื่อปลายเดือนเมษาที่ผ่านมา ซึ่งเป็นละครที่สร้างกระแสไม่น้อยหน้ากว่าละครดังเรื่องบุพเพฯ ในปีที่แล้ว แถมละคร กรงกรรม ยังสร้างกระแสให้คนไปตามรอยละครถึง อำเภอชุมแสง กลายเป็นจุดสนใจให้คนมาเที่ยวทุกวัน
แต่ในชีวิตจริง "กรงกรรม" ในที่ทำงาน ที่เคยมีมายาวนาน ยังคงไม่จบและยังคงมีต่อไปอีกนานเท่านาน น่าจะนานกว่าจักรวาล มาเวล ที่ยังไม่ End game ง่ายๆ!
กรงกรรมในที่ทำงาน พอจะแบ่งเป็น 3 กรงหลักๆ...
กรงแรก.. ผู้บริหารระดับสูงกับมือรอง
กรงสอง.. ผู้จัดการกับลูกน้อง
กรงสาม.. พนักงานกับพนักงานในหน่วยงานเดียวกันและคนละหน่วยงาน
มาว่ากันที่ กรงแรก กันก่อน...
กรงกรรม ที่ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มักจะมีปัญหาคือ มีมือรองโดยตำแหน่ง แต่ไม่สามารถเป็นมือรองที่ช่วยคิด ช่วยบริหารงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งจะแตกต่างกับองค์กรขนาดใหญ่ที่จะคัดสรรและมีระบบการสร้างมือรองที่ดีกว่า
ปัญหาจึงเกิดผู้นำเหล่านี้ เพราะตัวผู้นำคิดได้แต่คนช่วยคิดช่วยทำช่วยบริหารมักจะทำไม่ค่อยได้! กรรมจึงบังเกิด ด้วยกรงที่ ผู้นำอาจเป็นผู้สร้างไว้โดยไม่ตั้งใจ!
กรงในมุมนี้คือ ตัวผู้นำไม่สามารถหรือไม่มีเวลาที่จะ Coach มือรอง และไม่หา Coach เก่งจากภายนอกๆ มาช่วยเป็น Coach ให้มือรอง
ทางแก้กรรมให้ออกจากกรงตรงนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน ตรงไปตรงมาคือ ผู้นำต้องหาเวลา Coach หรือหาคนมา Coach มือรองอย่างที่องค์กรใหญ่ๆใช้จนเห็นผลมาแล้วหลายๆ ที่
กรงสอง ผู้จัดการกับลูกน้อง
อันนี้เป็นกรงกรรม อมตะที่มีมานานและจะมีต่อไปอีกนาน เพราะเรื่องระหว่าง ผู้จัดการกับลูกน้องในแต่ละที่ ต้องใช้คำว่า... มีที่ใดบ้างที่ ผู้จัดการหรือผู้นำทีม ไม่มีปัญหาเลยในเรื่องลูกน้อง!?
ปัญหาอาจเกิดจากตัวพนักงานเอง ที่มีทัศนคติที่ไม่ดีกับงานที่ทำ กับปัญหาที่พนักงานเจอในแต่ละวัน แล้วแก้ไขไม่ได้ หรือเบื่อและชินชากับปัญหาที่เจอในแต่ละวันจนไม่คิดจะแก้ไข
แต่คำถามคือ.. แล้วผู้จัดการรู้หรือไม่ ว่าพนักงานที่เป็นลูกน้องมีปัญหา!?
ถ้าไม่รู้ แสดงว่า ผู้จัดการนั่นแหละมีปัญหา! แต่ถ้ารู้ แล้วยังไม่คิดจะแก้ไข ไม่มีเวลาแก้ไข ก็ยังคงแสดงว่า ตัวผู้จัดการก็มีปัญหาเช่นกัน!
ปัญหาอีกด้านคือ ลูกน้องไม่ชอบ ไม่ศรัทธา หรือบางคนถึงกับเกลียด ผู้จัดการ เพราะวิธีการบริหารของผู้จัดการ หรือ วิธีสื่อสารของผู้จัดการ ทำให้เกิดปัญหา
เช่น บริหารแบบไม่ยุติธรรม บริหารด้วยอารมณ์ด้านลบเป็นหลัก และสื่อสารแบบสร้างความสับสน ไปจนถึงสร้างความชอกช้ำระกำใจให้กับลูกน้องไม่เว้นแต่ละวัน
และเป็นที่รู้กันอยู่ว่า พนักงานจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะพนักงานที่มีความสามารถ ไม่ได้ลาออกเพราะผลตอบแทนไม่เพียงพอ ไม่ได้ลาออกเพราะเบื่อกับปัญหา แต่ส่วนมาก ลาออก เพราะ หัวหน้าหรือผู้จัดการ "เป็นตัวปัญหา" หรือ "ไม่เคยแก้ปัญหา" อะไรเลย!
ทางแก้กรรมให้ออกจากกรงตรงนี้ ก็เช่นเดียวกับทางแก้ของกรงแรกไม่มีอะไรซับซ้อน ตรงไปตรงมา แต่ต้อง "รีบทำอย่างเร่งด่วนที่สุด!" คือ ผู้จัดการต้องเป็น Coach
หรือหาคนมา Coach ผู้ตัดการให้ผู้จัดการเป็น Coach อย่างที่องค์กรขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่จำนวนไม่น้อย ใช้จนประสบความสำเร็จมาแล้ว
กรงที่สาม ปัญหาระหว่างพนักงานด้วยกันเอง..
ในโลกแห่งความเป็นจริง เป็นเรื่องที่หาได้ไม่ง่าย ที่ทีมงานจะมีความกลมเกลียว สามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเป็นทีม และยิ่งหายากมากๆ ที่ทุกแผนกทุกหน่วยงานในบริษัท เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยไม่มีความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานเลย
ในชีวิตการทำงานจริงของทุกๆ ที่ มีบ้างที่อาจขัดแย้งกัน โทษกันไปโทษกันมาในระหว่างหน่วยงาน และมีบ้าง ที่หน่วยงานเดียวกัน อาจมีบางคน บางส่วนไม่ชอบหน้ากัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่เป็น กรงกรรม ก็เพราะผู้บริหารหน่วยงาน กลับปล่อยปละ ละเลยปัญหาเหล่านี้จนบานปลาย สร้างปัญหามากยิ่งขึ้น
หนักกว่านั้น ผู้จัดการหรือผู้บริหารหน่วยงาน เป็น หัวโจกในการสร้างความขัดแย้งกับหน่วยงานอื่น หรือ เลือกที่รักมักที่ชังกับลูกน้องบางคน จนทำให้ทีมแตกก็มี!
ทางแก้ในกรงนี้ ก็ต้องแก้ที่ตัว ผู้จัดการหรือผู้บริหารหน่วยงานนั่นแหละ ว่าจะปรับทัศนคติของตน ของลูกน้อง ปรับวิธีสื่อสาร ไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน และปรับวิธีบริหารทีมไม่ให้เกิดความแตกแยกได้อย่างไร จะเป็น Coach และจะเป็นผู้นำทีมที่ดีได้อย่างไร?
กรงกรรม ละครช่อง 3 จบไปแล้วเมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา...
แต่ "กรงกรรมในที่ทำงาน" จะยังคงดำเนินต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย ถ้าผู้บริหารทั้งระดับสูง และระดับกลาง ยังไม่สามารถเป็น Coach เพื่อสลายกรงที่สร้างกรรมได้!
โดย : อ.ธีรพล แซ่ตั้ง